วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับฟิลิปปินส์/ประชากร

ศาสนา/ภาษาประจำชาติ

จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2556 พบว่า ฟิลิปปินส์มีประชากรอยู่ราว 98 ล้านคน โดยร้อยละ 83 นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาธอลิก, ร้อยละ 9 นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนท์ อีกร้อยละ 5 นับถือศาสนาอิสลาม และที่เหลือนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิตามความเชื่อต่าง ๆ ชาวฟิลิปปินส์ใช้ภาษาฟิลิปิโน (Filipino) และภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ โดยมีภาษาประจำชาติคือ ภาษาตากาล็อก และมีดอกพุดแก้ว (Sampaguita Jasmine) เป็นดอกไม้ประจำชาติ วันชาติของฟิลิปปินส์ ตรงกับวันที่ 12 มิถุนายน ของทุกปี


ดอกพุดแก้ว (Sampaguita Jasmine)



ประชากร

         ชาวฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน มีรูปร่างหน้าตาคล้ายพวกมองโกล ผสมผสาน มีผิวสีน้ำตาล แต่บางกลุ่มมีผิวค่อนข้างขาว ซึ่งการที่ชาวฟิลิปปินส์มีลักษณะที่แตกต่างกันนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความซับซ้อนของเผ่าพันธุ์ อันเกิดจากการผสมผสาน ระหว่างเชื้อชาติต่าง ๆ ทั้งจากชนเผ่าดั้งเดิม ซึ่งเป็นมนุษย์ชวา (Java man) ที่อาศัยอยู่ตามหมู่เกาะฟิลิปปินส์มาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (Ice Age) ร่วมถึงชนเผ่าอินโดนีเซีย ที่ได้เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่บนเกาะฟิลิปปินส์ จนกลายเป็นชนเผ่าพื้นเมืองในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติอีกหลายกลุ่มที่เข้ามาอาศัยตั้งรกรากอยู่ที่เกาะฟิลิปปินส์ เช่น ชาวมาเลย์ ชาวจีน ชาวสเปน ชาวโปรตุเกส ชาวฮอลันดา และชาวอังกฤษ เป็นต้น



           ทั้งนี้ ประชากรส่วนใหญ่ คือร้อยละ 60 ประกอบอาชีพเกษตรกร แต่เนื่องจากภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะ พื้นที่เพาะปลูกมีเพียง 15-27% เท่านั้น ดังนั้น ชาวฟิลิปปินส์จึงนิยมทำเกษตรกรรมแบบขั้นบันได ขณะที่ชาวฟิลิปปินส์อีกกลุ่มหนึ่งจะนิยมไปประกอบอาชีพในต่างประเทศ ทำให้ฟิลิปปินส์พึ่งพารายได้จากแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างประเทศ เพื่อการพัฒนาประเทศเป็นส่วนใหญ่








ชุดประจำชาติของประเทศฟิลิปปินส์




          ผู้ชายจะนุ่งกางเกงขายาวและสวมเสื้อที่เรียกว่า บารอง ตากาล็อก (barong Tagalog) ซึ่งตัดเย็บด้วยผ้าใยสัปปะรด มีบ่า คอตั้ง แขนยาว ที่ปลายแขนเสื้อที่ข้อมือจะปักลวดลาย ส่วนผู้หญิงนุ่งกระโปรงยาว ใส่เสื้อสีครีมแขนสั้นจับจีบยกตั้งขึ้นเหนือไหล่คล้ายปีกผีเสื้อ เรียกว่า บาลินตาวัก (balintawak)


พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน

บารอง ตากาล็อก - ประเทศฟิลิปินส์


พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
บาลินตาวัก - ประเทศฟิลิปินส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น